JAPANท่องเที่ยวเที่ยวญี่ปุ่น

“ไปโตเกียว เที่ยวไหนดี” 10 ที่เที่ยวที่ห้ามพลาด ในโตเกียว

10 ที่เที่ยวที่ห้ามพลาด ในโตเกียว

        
“ไปโตเกียว เที่ยวไหนดี” หลายๆ คน อาจผุดคำถามนี้ขึ้นมาในใจเมื่อนึกอยากจะแบกเป้ไปในดินแดนอาทิตย์อุทัยสักสามสี่วันแบบ วันนี้เรามี10แลนด์มาร์คในโตเกียวที่ขาเที่ยวห้ามพลาด!! มาฝากกันค่ะ

และถ้าใครยังไม่มีโรงแรมแวะเข้าไปดูรีวิวโรงแรมดีๆในโตเกียวได้ที่เว็บนี้เลยคะ

“10 อันดับโรงแรมสุดคุ้มในกรุงโตเกียว จาก PANTIP.com ใกล้รถไฟฟ้า ราคาสบายกระเป๋า”

 


 

 

1.) วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) ตั้งอยู่ในย่านอาซาคุซะ ซึ่งเป็นย่านที่รวมโฮสเทลราคาประหยัดไว้มากมาย วัด
แห่งนี้ถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว และเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งที่น้อยคนนักจะยอมพลาดการมากราบสักการะขอพรพระโพธิสัตว์คันซึ่งเป็นพระประธานของวัดนั่นเอง และนอกจากนี้ “วัดเซนโซจิ” แห่งนี้ยังมีโคมแดงขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเก็บภาพประทับใจกลับไปกันอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ บริเวณตรอกหน้าวัด ถนนนากามิเสะยังมีร้านค้ามากมายให้เลือกช้อป โดยเฉพาะของฝากและขนมดั้งเดิมตามแบบฉบับญี่ปุ่น
การเดินทาง สามารถใช้บริการรถไฟได้ 2 จุด คือ
1.) นั่งรถไฟ JR >> ไปลงที่ Ueno จากนั้น ต่อ Subway มาลงที่สถานี Asakusa (G19 , A18) ทางออกหมายเลข 1 หรือ 3
2.) ขึ้นจาก Subway >> ไปลงที่สถานี Asukusa ได้เลย
เวลาเปิด – ปิด >> 06:00 น. – 17:00 น.

 

2.) ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) ตั้งอยู่ในเขตชิบุยะ กรุงโตเกียว พื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยป่าดิบเขามีต้นไม้ต่างสาย
พันธุ์เป็นร้อยๆชนิดและมีมากกว่าแสนต้น เสมือนป่ากลางเมืองโตเกียว เป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน เพราะนอกจากจะมาไหว้พระขอพรกันแล้ว บางครั้งอาจจะเจอพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นอีกด้วย ทางเข้าของศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) จะมี ประตูไม้ Torii ขนาดใหญ่อยู่ ประตูนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของที่นี่ด้วยเนื่องจากมีคนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก และก่อนจะเข้าไปด้านใน เป็นธรรมเนียมของที่ญี่ปุ่น จะต้องทำความสะอาดร่างกาย ล้างมือ ป้วนปาก ก่อนที่จะเข้าไปในวัดหรือศาลเจ้ากันด้วยนะคะ
          การเดินทาง : ถ้ามาจาก Harajuku สามารถเดินทางมาได้ 2 วิธีคือ
          1.) นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote ลงที่สถานี Harajuku Station
2.) นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Chiyoda หรือ Fukutoshin ลงที่สถานี Meiji-Jingumae ‘Harajuku’ Station

 

3.) ย่านคาบุกิโช (Kabukicho) เมื่อไหว้พระขอพรในช่วงกลางวันกันแล้ว ก็พักจากความสงบมาถึงยามราตรี ที่ขาเที่ยวจะพลาดสถานที่แห่งนี้เสียไม่ได้ เพราะเป็นย่านที่ถูกขนานนามว่าเป็นย่าน “โคมแดง” เนื่องจากเป็นแหล่งรวมร้านอาหารมากมาย รวมไปถึงไนต์คลับ , ปาจิงโกะ , เลิฟโฮเต็ล , โฮสคลับ และสถานบันเทิง 18+ รอให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือน งานนี้ใครจะมาเดินเล่นเพลินๆ ชมแสงสีก็ดีไม่น้อย โดยจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไปจนตลอดทั้งคืน
การเดินทาง : เดินเพียง 10 นาที จากสถานี Shinjuku
4.) พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ตั้งอยู่บนที่ที่เคยเป็นปราสาทเอโดะในสมัยก่อน ในปัจจุบันเป็นที่
ประทับของราชวงศ์ญี่ปุ่น โดยรอบพระราชวังเป็นพื้นที่ของสวนขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยคูเมืองและกำแพงหิน และจากทางเข้าชมด้านหน้าของพระราชวังอิมพีเรียล นักท่องเที่ยวจะสามารถชมสะพานได้ 2 สะพานด้วยกัน คือสะพาน Nijubashi และสะพาน Meganebashi (สะพานแว่นตา) ความสวยงามของทั้ง 2 สะพานนี้ และบรรยากาศที่เงียบสงบของสถานที่แห่งนี้ชวนให้ผู้คนเข้ามาถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก
การเดินทาง : ใช้เวลาเพียง 10 นาที จากสถานีโตเกียว
           เวลาเปิด-ปิด : เดือนมีนาคม-ตุลาคม 9:00-16:30 น. / เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ 9:00-16:00 น.

 

 

          5.) ย่านชิโมคิตาซาวะ (Shimokitazawa) เป็นย่านที่ฮิปสเตอร์และชาววินเทจตัวจริงไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากย่านนี้เป็นแหล่งรวมของมือสองและข้าวของชิคๆ คูลๆ เอาไว้มากมายจากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งยังมีร้านรวงและคาเฟ่ต์เก๋ๆ ให้นั่งชิลล์ พักเหนื่อยจากการเดินช้อป หรือจะแวะเข้าไปในโรงภาพยนตร์แบบอินดี้ ย่านนี้เขาก็มีไว้ให้บริการ เรียกได้ว่า เป็นย่านที่เหมาะสำหรับวัยรุ่นมาเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศในวันสบายๆ แถมยังได้ซื้อหาของชอบหลากแบบหลายสไตล์ตามใจชาวแกงค์เรียกว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นนอน
การเดินทาง : เดินทางได้หลากหลาย ได้แก่
สถานี Shimokitazawa ทางออก 1
สถานีชินจูกุ: 15 นาทีโดยระบบขนส่งสาธารณะ
สถานีอุเอโนะ: 40 นาทีโดยระบบขนส่งสาธารณะ
โตเกียวทาวเวอร์: 45 นาทีโดยระบบขนส่งสาธารณะ

 

 

6.) ย่านชิบูย่า (Shibuya) ไปโตเกียวทั้งที ไม่พูดถึงที่นี่คงไม่ได้ เพราะ “ย่านชิบูย่า” หรือ “5 แยกชิบูย่า” แห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งที่ที่รวมสากกระเบือยันเรือรบ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ , ร้านอาหาร , แหล่งบันเทิง , โรงละคร , โรงภาพยนตร์ , พิพิธภัณฑ์ , แกลลอรี่ , และร้านขายซีดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรียกว่าใครอยากได้อะไรต้องการซื้อหาอะไรมาที่นี่ “ได้หมดและสดชื่น” ที่สำคัญที่สุดเรียกว่าเป็น “ซิกเนเจอร์” ก็คือ การนั่งจิบกาแฟสตาร์บัคที่ถือว่าวุ่นวายที่สุดในโลก มองผู้คนเดินข้าม 5 แยกกันขวักไขว่ และชักภาพเป็นที่ระลึกกับสถานที่แห่งนี้
การเดินทาง : จากสถานี Shibuya ออกทาง Hachiko Exit แล้วเดินออกมาตรงถนนด้านหน้า
7.) ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) ย่านนี้อยู่ใกล้กับศาลเจ้าเมจิ นับได้ว่าเป็นศูนย์รวมวัยรุ่นที่เผ็ดซี๊ดที่สุดในโตเกียวก็ว่าได้ โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่แห่งนี้จะมีอีเว้นท์ที่รวมบรรดาเจ้าแม่แฟชั่นแบบญี่ปุ่นทั้งหลายโดยเฉพาะในแบบที่แหวกแนวสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นพังค์ โลลิต้า หรือว่าร้อค ทั้งหมดจะมารวมตัวกันโดยการแต่งกายแบบคอสเพลย์บริเวณสะพานหินขนาดใหญ่ทางเข้าศาลเจ้าแม่เมจิ นอกจากนี้บรรดานักท่องเที่ยวนักช้อปยังจะได้เลือกซื้อข้าวของชิคๆ อีกมากมายตลอดทั้งวันบริเวณ ถนน Omotesando และ Cat Street
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Yamanote Line มาลงที่สถานี Harajuku

 

   8.) เกาะโอไดบะ (Odaiba) สำหรับสถานที่แห่งนี้เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คอีกที่หนึ่งซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในอ่าวโตเกียว “เกาะโอไดบะ” แห่งนี้ยังมีทั้งแหล่รวมความบันเทิง สวนสนุก สะพานสายรุ้ง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่เรียกได้ว่าสวยงามมากๆ นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการถ่ายรูปเก็บภาพวิวสวยแห่งนี้ และแลนด์มาร์คสำคัญที่ต้องไปเช็คอินของเกาะแห่งนี้ คือ หุ่นกันดั้มขนาดมหึมา ,ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ และ เทพีเสรีภาพขนาดจำลอง นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมสำหรับคนที่ชื่นชอบชมตึกสูงรูปทรงแปลกบนเกาะแห่งนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยทีเดียว
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่ JR Shimbashi แล้วเดินออกไปที่สถานี Shimbashi ของรถไฟ Yurikamome

 

 

  9.) ย่านอุเอโนะ (Ueno) ถือได้ว่าเป็นแหล่งที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโตเกียวที่มีความหลากหลาย อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งวัฒนธรรม เพราะในย่านนี้จะมีทั้ง “สวนอุเอโนะ” ซึ่งได้รับความนิยมในการมาชมซากุระบาน “สวนสัตว์อุเอโนะ” ที่มีแพนด้าอาศัยอยู่ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว และพิพิธภัณฑ์ศิลปะอีกหลายแห่ง ตลอดจนวัดและศาลเจ้า นอกจากนี้ยังมีตึกม่วง หรือร้าน TAKEYA ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าราคาถูกและปลอดภาษียอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว และ ที่มีร้านค้ามากมายร้านอาหารเพียบ รวมถึงตลาดสด เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักช้อปที่ต้องการหาสินค้าราคาไม่แพงก็ว่าได้
การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟมาจากอาซากุสะได้ในเวลาเพียง 5 นาที
10.) ย่านกินซ่า (Ginza) เป็นย่านการค้าหรูของกรุงโตเกียว เต็มไปด้วยช็อปแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารหรู รวมถึงร้านขนมหวานและขนมญี่ปุ่นเก่าแก่แบบฉบับดั้งเดิม อาคารต่างๆ ในย่านนี้ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกได้อย่างลงตัว แลนด์มาร์คที่สำคัญคือ “ห้างกินซ่าวาโกะ” ซึ่งมีหอนาฬิกาสไตล์ยุโรปของแบรนด์ SEIKO ตั้งอยู่ด้านบน และอาคารโซนี่ ซึ่งเป็นโชว์รูมจัดแสดงสินค้าและนวัตกรรมต่างๆ ของโซนี่ นอกจากนั้นในช่วงเวลา 12.00 -17.00 น. ของทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ยังมีการปิดถนน Chuo Dori ให้เป็นถนนคนเดินอีกด้วย
การเดินทาง : สามามารถนั่งรถไฟไปลงได้หลายสถานี เช่น Subway Ginza, Higashi-ginza และ JR Yurakucho

 


จองที่พักในโตเกียวได้ที่ Booking.com

Booking.com