10 ที่เที่ยวห้ามพลาดในเมืองโอซาก้า (OSAKA) เมืองแห่งวัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่น
ไม่ว่าใครที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องนึกถึงที่นี่ เรียกว่าเป็นเมืองที่หลายคนฝันถึง เป็นแลนด์มาร์คอีกที่นึงเลยนะคะเพราะเค้ามีแหล่งท่องเที่ยวเยอะมากจริงๆ จนเราเลือกไม่ถูกเลยล่ะ วันนี้เราจึงได้คัดเลือก 10 สถานที่เที่ยวเด็ดๆ มาฝากกัน มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยจ้า
แต่ถ้ายังไม่มีที่พัก Topofhotel เรามีที่พักดีๆหลากหลายมาแนะนำกัน
“10 โรงแรมย่านนัมบะ (Namba,Osaka) กลางแหล่งช็อปปิ้ง เดินทางแสนสะดวก”
“5 อันดับโรงแรมในเมืองโอซาก้าที่ใกล้สถานี Shin Osaka แบบสุดๆ จากเว็บ Pantip.com”
“5 อันดับ Hostel ที่ดีที่สุดใน Namba,Osaka ราคาถูก ห้องพักดี เดินทางสะดวก”
10. Shin Umeda cafeteria Street โรงอาหารแห่งโอซาก้า
แค่ได้ยินชื่อท้องก็ร้องทันทีค่ะ เรียกได้ว่าฟังแล้วต้องตั้งใจไปกินเลยล่ะ เพราะที่นี่คือแหล่งรวมอาหารชั้นดีมีเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นจนได้รับสมญานามว่า “ครัวของประเทศญี่ปุ่น” จ้า พูดถึงอาหารการกินก็หลากหลายมากๆ ทั้งอาหารท้องถิ่นอย่างทาโกะยากิ กินที่บ้านเราแล้วก็ลองไปชิมของต้นตำรับ อื้อหืมมม!! ฟินค่ะ นอกจากนี้ยังมีอาหารสไตล์โอซาก้า คือ Shin Umeda cafeteria Street หรือ Shin umeda Shokudogai นั่นเอง มาถึงถิ่นต้องลองกินแบบ Signature นะคะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Hankyu – Kobe Line ลงที่สถานี Umeda จากนั้นเดินต่อนิดก็ถึงแล้วจ้า
9. แสงสียามค่ำคืน Shinsekai
ถัดมาก็มาท่องราตรีกันที่ Shinsekai ที่นี่ถูกเรียกว่าย่านแห่งยามค่ำคืนจ้า เพราะนอกจากจะมีหอคอย Tsutenkaku ให้เราชมวิวกลางคืนสวยๆ แล้วยังมีซอยเล็กอย่าง ๆ Jan Jan Yokocho ก็จะเป็นซอยแห่งการดื่มกิน คอเหล้าอย่าลืมมาลองเหล้าสไตล์ญี่ปุ่นกันนาจา แต่ถ้าใครไม่ถนัดถหนี่ในการดื่มก็ไม่เสียเที่ยวจ้า เพราะยังมีร้านอาหาร ร้านขนม ของท้องถิ่นให้เลือกกินแบบฟินๆ เสร็จแล้วก็แวะซื้อของฝากของที่ระลึกที่มีเปิดขายในระแวกนั้นด้วย บรรยากาศก็จะชิวๆ ประมาณนี้ล่ะค๊าคุณผู้ชม
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Sakaisuji Line ลงที่สถานี Ebisucho แล้วเดินต่ออีกนิดก็จะถึงย่าน Shinsekai จุดสังเกตคือหอคอย Tsutenkaku นะคะ เค้าอยู่ในย่านเดียวกันจ้า
8. หอคอยแห่งแสงสี Tsutenkaku Tower
ใครที่อยากชมวิวสวยๆ ของเมืองโอซาก้า ห้ามพลาดที่นี่นะจ๊ะ โดยเฉพาะเวลากลางคืน ที่เราจะได้เห็นแสงสีของเมืองทั้งเมืองเมื่อมองลงมาจากจุดชมวิวบนหอคอย เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้า ขอบอกว่าใครไม่มาก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะฉะนั้นห้ามพลาดเชียว
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Nankai Line ลงที่สถานี Shin-Imamiya จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
7.หมู่บ้านอเมริกาแห่งโอซาก้า America Mura
คิดถึงที่นี่คิดถึงชิบูย่า ฮาราจุกุจ้า เพราะก็จะมีความละม้ายคล้ายคลึงกัน คือเป็นศูนย์กลางแหล่งรวมแฟชั่นเด็กแนว ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ก็ตกแต่งดีงามพระรามแปด ทั้งสถาปัตยกรรมเอยอะไรเอย เรียกว่าบรรยากาศมันก็ชิคๆ คูลๆ น่ามาเดินเล่นอีกแล้วจ้า ที่สำคัญมีร้านขนมอร่อยๆ ให้ชิมกันด้วยนะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดง M-Midosuji หรือสายสีเขียว Nagahoritsurumiryokuchi ลงสถานี Shinsaibashi (M19 , N15) เดินต่ออีกไม่เกิน 5 นาทีจากสถานีถึงหมู่บ้านจ้า
6.Sumiyoshi Taisha : ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์
มาที่ศาลเจ้ากันบ้างค่ะ ว่ากันว่าที่นี่เป็นศาลเจ้าชื่อดังของโอซาก้า ที่สร้างแบบมีเอกลักษณ์ในสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ สวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว มาที่นี่ก็ต้องไม่พลาดไปที่สะพานไม้ที่อยู่ในศาลเจ้ากันนะคะ ชื่อว่าสะพาน Taiko-bashi เพราะเชื่อกันว่าถ้าเดินข้ามสะพานก็เท่ากับเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ว่าแล้วก็ไปเดินข้ามสะพานกันสักหน่อยดีกว่าจ้า
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Hankaidenki – Hankai Line ลงที่สถานี Sumiyoshi ได้เลยจ้า
5.สถาปัตยกรรมอันโดดเด่น Umeda Sky Building
สายอาร์ท งานสถาปัตย์ทั้งหลายไม่ควรพลาดที่นี่ เพราะเค้าคือเมืองแห่งสถาปัตยกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโอซาก้าจ้า ว่ากันว่ามีความงดงามและมีเอกลักษณ์ที่สุดด้วยนะ นอกจากนี้เรายังจะได้ชมวิวเมืองโอซาก้าแบบ 360 องศา เรียกว่ารอบทิศกันเลยทีเดียว
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Hankyu-Kobe Line ลงที่สถานี Nakatsu แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงแล้วจ้า
4.Dotonbori : ย่านช้อปปิ้งสุดฟิน
ขาช้อปทั้งหลายได้ฟินกันสุดๆแน่นอนจ้า สำหรับแหล่งช้อปปิ้งอันโด่งดังอย่าง Dotonbori เพราะที่นี่เค้าเป็นศูนย์รวมร้านค้าเรียกว่าทุกสรรพสิ่งสากกระเบือยันเรือรบ ตั้งแต่เครื่องสำอางราคาประหยัด ร้านอาหารเลื่องชื่อของโอซาก้า เสื้อผ้าแบบต่างๆ ของฝากของขายอีกเพียบละลานตาไปหมดเลยจริงๆ ค๊า ซึ่งในช่วงเย็นก็บรรยากาศก็จะคึกๆ หน่อย เพราะด้วยแสงสีแห่งโอซาก้าแล้ว มันน่ามาเดินกินลมจริงๆ จ้า และก็แลนด์มาร์คคือ ป้ายไฟกูลิโกะ ที่สะพานเอบิซู จะเซลฟี่หรือถ่ายหมู่ก็ดีเพราะนี่จะบ่งบอกว่าคุณมาถึงโอซาก้าแล้วจ้า
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Hanshin-Namba Line มาลงที่สถานี Osaka-Namba เดินต่ออีกนิดก็ถึงค๊า
โรงแรมที่พักใกล้ Dotonburi
“10 โรงแรมย่านนัมบะ (Namba,Osaka) กลางแหล่งช็อปปิ้ง เดินทางแสนสะดวก”
3. Osaka Aquarium Kaiyukan : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุดอลังการ
มาโอซาก้าพลาดไม่ได้เลยกับการมาดูฉลามวาฬตัวใหญ่มหึมา เจ้าฉลามวาฬที่ว่านี้เราจะเห็นเค้าได้จากการดูผ่านตู้โชว์ขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ในโซนแปซิฟิกโอเชี่ยนค่ะ หรือก็คือที่ Central Tank ซึ่งลึกถึง 9 เมตร และจุน้ำถึง 5,400 ลูกบาศก์เมตร ใหญ่จริงอะไรจริงค๊า บอกได้คำเดียวว่าอย่าพลาดการชื่นชมความงามและสัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล ที่อควาเรี่ยมระดับโลกแห่งนี้กันนะคะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chuo line ลงที่สถานี Osakako แล้วเดินต่อประมาณไม่เกิน 10 นาทีค่ะ
2.ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ขอแนะนำว่าสักนิดว่ามาที่นี่ต้องมาในช่วงเมษายนค่ะ เพราะที่ปราสาทแห่งนี้เค้ามีสวนสาธารณะนิชิโนมารุ ซึ่งปลูกต้นซากุระไว้กว่า 600 ต้น ซึ่งจะออกดอกเบ่งบานอวดสายตาประชาชนอย่างเราๆ ในช่วงเดือนเมษานั่นแหละจ้า นับว่าเป็นจุดชมดอกซากุระที่สวดที่สุดอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยล่ะ ตัวปราสาทเองก็สวยงามไม่น้อย ถูกโอบล้อมด้วยกำแพงหินคอนกรีต และมีคูน้ำล้อมรอบอีกที ไม่ว่าจะมองตัวปราสาทจากข้างนอกหรือเข้าไปเดินชมข้างในก็สวยงามไร้ที่ติค๊า
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Osaka Loop Line ลงที่สถานี Morinomiya จากนั้นเดินต่อไม่เกิน 20 นาที
1.Universal Studios Japan
นอกจากเครื่องเล่นแบบอลังการล้านแปดแล้ว ก็เหมือนหลุดเข้าไปในเมืองเวทมนต์และโลกการ์ตูนเชียวค่ะ รับรองว่ามาแล้วต้องรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้าไปในยูนิเวอร์แซล เพราะที่นี่มีเรื่องสนุกให้เราเล่นเยอะมาก จนเพลินเลยล่ะ ตั้งแต่ Universal Wonderland , รถไฟเหาะ Hollywood Dream อันนี้ก็จะใจเต้นตุบๆหน่อย , โซน New York ก็เหมือนเดินอยู่ในนิวยอร์คจริงๆ เชียวค่ะ ฉากในหนังต่างๆ ก็มา เรียกว่าจำลองแบบเหมือนเป๊ะ และบอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดไฮไลท์ของยูนิเวอร์แซล นั่นคือ The Wizarding World of Harry Potter ที่จำลองทุกสิ่งเหนือจินตนาการมาให้เราไปผจญภัยในแบบแฮรี่ที่เคยดูๆ กันในหนังเลยล่ะจ้า
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Sakurajima Line ลงสถานี Universal City ได้เลยจ้า